วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

เที่ยวเชียงใหม่ 2010 วันที่ 1

สวัสดีครับทุกท่าน
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2552
ผมและครอบครัว ประกอบด้วย
แม่(แม่ผมเอง) เพรช(น้องสาว) เยาว์(ผบ.) และผมเอง
นัดกันไปเที่ยวภาคเหนือ โดยซื้อแพ็คเกจทัวร์เพราะสะดวก
เหมาะกับผมซึ่งชอบความสะดวกสบาย อิอิอิ
ระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พวกเราแวะหาอะไรกินกันก่อน
ที่ S&P เออ คนเยอะรอคิวกิน
กว่าอาหารจะมาเสิร์ฟ เราก็เก็บภาพกันสักหน่อย
นี่ครับ แม่ กับเพรช

นี่ก็ผม กับเยาว์ หลังจากอิ่มกันแล้วก็เข้าเกจ

ลือกซื้อของที่ดิวตี้ฟรีกันเล็กน้อย

เพราะสาวสาวสาวเค้าเรียกร้องกัน

ก็ไม่มีอะไรนอกจากซื้อน้ำหอมกับนาฬิกา เหอะๆ ประมาณ 7 โมงเช้าเครื่องเทคอ๊อฟ

พาพวกเราไปสู่สนามบินเชียงใหม่

รู้สึกว่าอากาศที่เชี่ยงใหม่เย็นกำลังดี
ระหว่างทาง"พี่นางฟ้า"จากการบินไทย
เค้าแจกแซนวิสอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้
แต่อร่อยดีครับ
ดูสิครับ ท่านแม่
กำลังชื่นชมกับวิวนอกเครื่องอยู่

หลังจากลงเครื่อง
พวกเราก็ขึ้นรถโค้ช และเปลี่ยนขึ้นรถตู้
เพื่อมาที่อำเภอจอมทองแล้วขึ้นดอยอินทนนท์
ลงรถได้สาวสาวสาวของเราก็ชักภาพทันทีครับ
ระหว่างทางเป็นป่าดึกดำบรรพ์
อากาศเย็นสบายครับ ที่นี่เค้ามีดอกไม้ที่ใช้สำหรับสักการะพระธาตุ
อันนี้คณะของเราก็โดนต้มเรื่องราคาดอกไม้
ซื้อที่จุดจอดรถราคาชุดละ 20 บาท
พอไปถึงที่พระธาตุ ราคาชุดละ 5 บาท
โอย...อะไรกันนี่ ฮาๆๆๆ (ไม่ซีเรียสมาทำบุญครับ)
ถึงจุดสุดยอด...เอ้ยไม่ใช่ จุดสูงสุดของเมืองไทยครับ
ถ่ายย้อนแสง วิ้ง ไหมครับ
(วิ้ง หมายความว่า สวยปิ้ง)
ที่ดอยอินทนนท์อากาศเย็น
ต้นไม้บ้างต้นจำศีลครับ
จากนั้นคณะของเราก็เดินทางลงจากยอดดอยอินทนนท์
มาที่พระธาตุนภเมทนีดล และพระธาตุนภพดภูมิสิริ
คนเยอะมากครับ
เห็นอย่างนี้ก็ดีใจที่ไทยเที่ยวไทย
ร่วมใจใช้เงิน อิอิอิ
อากาศเย็น เรียกว่าเดินตากแดดได้สบายไม่ร้อนเลยครับ
ภาพวิว จากกล้องออโต้ครับ
ผมง่ะสับสน ไม่แน่ใจว่าพระธาตุองค์ไหนชื่ออะไร
เพรชกับก้อนหิน และองค์พระธาตุ
สาว สาว สาว
ปรับฟังก์ชั่นกล้องให้เป็นโหมดถ่ายภาพกลางแจ้ง
จะทำให้เราได้ภาพที่ท้องฟ้ามีสีสวยยิ่งขึ้นครับ
ชั่งน้ำหนักของภาพด้วยนะครับ
นางแบบของเราวันนี้ไม่กลัวแดดครับ
ถ้าถ่ายภาพย้อนแสงให้ปรับฟังก์ชั่น
สำหรับภาพย้อนแสงด้วยนะครับ
หน้าคนจะได้ไม่ดำ
ก่อนจะไปกินมื้อเที่ยงกัน
พวกเราเก็บภาพอีกเล็กน้อยครับ
ผักบนดอยนี่สีสวยจริงๆ
เป็นได้ทั้งไม้ประดับและผักสวนครัว
น่าสนใจสำหรับผมมากครับ
พักกินมื้อเที่ยงกัน แบบปิคนิค
จากนั้นมาดูป่าสนสามใบที่ขึ้นเยอะแยะเต็มไปหมด
จากนั้นพวกเราเดินทางมาที่
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
ชาวบ้านแถวนี้เรียกสั้นๆว่า โครงการหลวง ผักที่พี่น้องชาวเข้าปลูก
และเอามาจำหน่ายให้แก่นักช๊อพ
จุดนี้ เราก็ได้สตอเบอรี่มา 1 ถุง อร่อยจัง
แล้วผมก็โดนแม้วต้มอีกแล้วครับท่าน
คือว่าพอผมลงรถเด็กแม้ววิ่งมาหาพร้อมให้ช่อดอกไม้
บอกผมว่า "อะหนูให้วันนี้ขายไม่ได้เลยสักดอก"
ด้วยความเห็นใจผมเลยบอกว่า
"นี่พี่ให้เงินก็แล้วกันนะ 20 บาท"
แต่พอเดินเล่นสักพักแล้วกลับมาจุดเดิม
เด็กแม้วคนเดิมก็วิ่งมาอีกพร้อมดอกไม้ช่อใหม่
พร้อมพูดว่า "อะหนูให้วันนี้ขายไม่ได้เลยสักดอก"
โอ้ย....ตรูโดนต้มอีกแล้ว
มาดูดอกไม้ในโครงการหลวงบ้างครับ
เจ้านี่เรียกว่าเฮริโคเนีย หรือฟาราไดออฟเบริด
วิหคกสวรรค์ หรือ ธรรมรักษา
ชื่อมันเยอะเพราะดอกมันสวยครับ อิอิ
การถ่ายภาพดอกไม้ นอกจากเราจะใช้ฟังก์ชั่น
ถ่ายภาพกลางแจ้งแล้ว
เราก็ปรับฟังก์ชั่นกล้องให้เป็นโหมดถ่ายภาพระยะใกล้
สัญลักษณ์รูปดอกไม้ จะช่วยให้เราได้ภาพที่สวยงามยิ่งขึ้นครับ
ปลาคาร์ฟภายในโครงการหลวง
เออ...ถ่ายภาพได้สักพัก
ผมก็ต้องหาอะไรที่เป็นอาหารท้องถิ่นมาลองกิน
เท่าที่คิดออกก็ ข้าวซอยครับ
นางแบบของเราอิ่ม หรือง่วงก็ไม่ทราบ
มาทำตาหวานใส่ผมอีกแหนะ
ที่วิวหน้าร้านที่ผมไปนั่งกินข้าวซอย
มองเห็นน้ำตกอะไรก็ไม่รู้จำชื่อไม่ได้
แต่สวยดีได้บรรยากาศดีครับ
จากนั้นคณะของเราเดินทางมาที่
โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว
ตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่
โรงแรมนี้ติดกับศูนย์การค้า ปางสวนแก้วเลยครับ
สะดวก สบายดีครับ
เช็คอินเรียบร้อยก็เดินทางออกมาที่
ขันโตกดินเนอร์
พร้อมชมการแสดงศิลปะพื้นเมืองของลานนา
นี่ครับขันโตก
ซุปแครอท กับ ข้าวเหนียว แปลกไปอีกแบบครับ
การแสดงศิลปะพื้นเมือง
โคมไฟประดับศิลปะล้านนา
ผมรู้สึกว่าศิลปะล้านนา
น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากพม่า
ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดีครับ
แล้วสังเกตุว่าชาวเชี่ยงใหม่ภาคภูมิใจใน
วัฒนธรรมนี้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน
เราจะได้พบเห็นการแสดงศิลปะวัฒนธรรมเสมอๆ
ด้านนอกศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมจะมีชาวเขาเผ่าต่างๆ
นำสินค้าออกมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ
อ้าว....น้องคนนี้เผ่าไหนง่ะ
สู้ตายครับ
จากนั้นพวกเราก็เดินทางไปไนท์บาซาร์เชียงใหม่
สาวสาว กำลังเลือกซื้อของฝากกันอยู่ครับ ได้อะไรกันบ้าง
จากนั้นเดินทางกลับด้วยรถสองแถวแดง
ค่าโดยสารคนละ 20 บาท สำหรับคนทั่วไป
แต่คณะของเราพิเศษ จ่ายคนละ 25 บาท เท่านั้นเอง อิอิอิ
วันนั้นมีปรากฎการณ์จันทรุปราคา
สืบค้นข้อมูลได้ที่
เนื่องในคืนวันข้ามปีชาวเชี่ยงใหม่เริ่มปล่อยโคมยี่เป็งกันแล้ว
สืบค้นข้อมูลประเพณียี่เป็ง ได้ที่
คืนนั้นพวกทุกเราคงมีความสุขกับการก้าวข้ามสู่ปีใหม่ 2553
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ